แบล็คแจ็ค กับการตัดสินใจในหลายสถานการณ์
พื้นฐานของการเล่นแบล็คแจ็ค
การเล่นแบล็คแจ็คเริ่มต้นด้วยไพ่ 2 ใบ และลุ้นให้ไพ่ของคุณได้แต้ม 21 หรือใกล้เคียงที่สุดตั้งแต่ 2 ใบแรก นั่นคือสิ่งที่เป็นข้อมูลพื้นฐานที่ช่วยให้คุณพอจะมองภาพของเกมไพ่ยอดนิยมเกมนี้ออก โดยที่ไพ่ของคุณจะต้องดวลกับไพ่ของฝั่งเจ้ามือ ดูว่าไพ่ของฝั่งใดที่มีแต้มไพ่มากกว่ากัน และนั่นจะเท่ากับเป็นผู้ชนะ
การตัดสินใจในระหว่างเกมไพ่ Blackjack
ซึ่งความสนุกของเกมนี้ แน่นอนว่าผู้เล่นจะต้องพยายามลุ้นให้ไพ่ของตนเองนั้นได้ 21 แต้มในทันทีที่เปิดไพ่ 2 ใบแรกออกมา แต่ถึงอย่างนั้นการที่ผู้เล่นเปิดไพ่ 2 ใบแรกแล้วแต้มยังไม่ใช่แต้มสูงสุด มันก็ถือเป็นความท้าทายอย่างนึง ที่ Winningkings เผยว่ามันทำให้คุณจะต้องตัดสินใจ โดยมีทางเลือกหลักอยู่ 2 ทางก็คือ
– Hit (จั่วไพ่ 1 ใบ)
– Stand (ไม่ต้องการไพ่เพิ่ม พอใจในแต้มที่มี และจบตาเล่นทันที)
นี่คือ 2 ทางเลือกที่คุณมักจะได้ตัดสินใจในการเล่นทุกตาที่เว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ โดยที่เราสามารถแจ้งให้คุณทราบได้ว่า คุณสามารถเลือก Hit สำหรับการจั่วไพ่เพิ่มก็ได้ เพื่อให้แต้มที่คุณมีอยู่ได้ขยับแต้มเข้าไปใกล้กับแต้ม 21 ได้มากที่สุด แต่มีข้อแม้อย่างนึงคือ ถ้าคุณเรียกไพ่มาแล้วแต้มเกิน 21 คุณจะแพ้ในตานั้นทันที โดยที่ดีลเลอร์ไม่ต้องทำอะไร
ตัวอย่างเช่น ไพ่ในแบล็คแจ็คของคุณสองใบแรกคือ Q (เท่ากับ 10 แต้ม) กับไพ่ 3 นั่นหมายความว่าคุณมีอยู่ 13 แต้ม และถ้าหากไพ่ใบต่อไปที่คุณจั่วได้นั้นเป็นไพ่ 9 10 J Q หรือ K คุณจะแพ้ในตานั้นทันที เพราะว่าตามกฎของเกมไพ่นี้จะเท่ากับว่าคุณมีแต้มเท่ากับ 22 หรือ 23
และตามที่เราได้บอกไปก่อนหน้านี้ ในการเล่นไพ่ Blackjack นั้นไม่อนุญาตให้คุณสามารถมีไพ่ที่แต้มเกิน 21 ได้ ดังนั้นในแต่ละครั้งที่คุณจะต้องตัดสินใจ มันจะเป็นความตื่นเต้นท้าทายอย่างมาก ที่จะต้องรอลุ้นว่าการจั่วไพ่ของคุณนั้นให้ผลลัพธ์ที่ดีหรือไม่ และถ้าหากเลือก Stand ไป ไพ่ของคุณยังคงมีแต้มมากกว่าไพ่ดีลเลอร์ได้ตามที่คาดหวังหรือเปล่า
สถานการณ์ที่คุณควรเลือก Hit
ไพ่ 2 ใบแรกที่คุณมีอยู่ กับไพ่ 1 ใบที่ดีลเลอร์ได้หงายเอาไว้ จะเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจของคุณว่าควรที่จะ Hit (จั่วไพ่ 1 ใบ) หรือไม่ โดยเราจะลองทำการจำลองสถานการณ์ให้คุณได้ทราบ ดังนี้
– ไพ่ของคุณคือ 8 กับ 6 = 14 แต้ม
– ไพ่ที่ดีลเลอร์หงายไว้คือ 3
ในสถานการณ์แบบนี้ ผู้เล่นแบล็คแจ็คที่มีประสบการณ์ในการเล่นมาจาก Winningkings เว็บคาสิโนชั้นนำ หรือที่ไหนก็ตามที่มีเกมพนันชนิดนี้ให้คุณได้เลือกเล่น พวกเขาจะเริ่มต้นด้วยการคาดเดาถึงความน่าจะเป็นของไพ่อีกหนึ่งใบที่ดีลเลอร์ยังไม่ได้เปิดให้ผู้เล่นได้เห็น
จะมีไพ่ 9 10 J Q และ K อยู่อย่างละ 4 ใบด้วยกันที่คุณยังไม่ได้เห็นในตานี้ ซึ่งนั่นเท่ากับว่ามีไพ่ถึง 20 ใบที่อาจมีสัก 1 ใบที่เป็นไพ่ที่ดีลเลอร์กำลังถืออยู่ รวมถึงเป็นไพ่ที่คุณมีโอกาสจะได้รับด้วยเช่นกัน หากว่าคุณได้ตัดสินใจที่จะทำการจั่วไพ่เพิ่ม เพื่อให้แต้มไพ่ของคุณมีเพิ่มขึ้นในเกมนี้
อย่างไรก็ตามหากเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์ สิ่งที่พวกเขามักจะตัดสินใจก็คือ พวกเขาจะไม่เสี่ยงเล่นเองในสถานการณ์แบบนี้ เพราะว่าสามารถเพิ่มไพ่ 8 ไปได้อีก 3 ใบ รวมกับไพ่ 20 ใบในข้างต้น เท่ากับว่ามีโอกาส 23/49 เลยก็ว่าได้ ที่คุณจะได้ไพ่ที่ทำให้คุณแต้มเกินและแพ้ในเกมนั้น เมื่อเป็นแบบนี้เขาจึงเลือกที่จะไม่จั่วไพ่เพิ่มอีกใบ
สิ่งที่พวกเขาทำคือเลือก Stand และปล่อยให้เจ้ามือจัดการเล่นไพ่ที่ฝ่ายนั้นถืออยู่ด้วยตัวเอง และโอกาส 20/49 ก็เป็นโอกาสที่ถือว่าสูงอยู่เหมือนกัน สำหรับการที่เจ้ามือจะเปิดไพ่ใบนั้นออกมาแล้วได้ไพ่ 12 หรือ 13 แต้ม ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นในระหว่างการเล่นแบล็คแจ็ค ทางด้าน Winningkings เปิดเผยให้คุณทราบได้ว่า นั่นคือการบังคับให้เจ้ามือจั่วไพ่ต่อ
ปล่อยให้เจ้ามือเล่นแล้วแพ้เอง
หากผลออกมาเป็นไปตามที่ผู้เล่นคาดหวังเอาไว้ ก็คือไพ่ของดีลเลอร์ในใบแรกคือ 3 และใบที่คว่ำอยู่เปิดออกมาเป็น 9 10 J Q หรือ K ใบใดใบหนึ่ง จนได้แต้ม 12 หรือ 13 คุณยังคงสามารถคาดหวังต่อไปได้อีกว่า ไพ่ของฝั่งดีลเลอร์นั้นที่จะถูกบังคับให้จั่วไพ่เพราะว่าแต้มตามหลังอยู่ อาจจั่วได้ไพ่ที่ทำให้ฝั่งเจ้ามือได้ 22 หรือ 23 แต้ม
และนั่นก็จะเป็นแต้มที่ส่งผลให้เจ้ามือเป็นฝ่ายแพ้ในทันที ซึ่งมันเป็นสิ่งที่มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงในระหว่างการเล่นเกมนี้ ที่จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นดังนั้น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะทำให้ผู้เล่นแบล็คแจ็ค สามารถใช้เป็นหลักในการวิเคราะห์ถึงความน่าจะเป็น และลดความเสี่ยงในเดิมพันของตนเองลง เพิ่มความได้เปรียบในการเล่นที่มากขึ้น
